ข้อดี ข้อเสีย และ ความแตกต่างของกระจกเทมเปอร์ และ กระจกธรรมดา

กระบวนการผลิตกระจกนิรภัยมีความแตกต่างจากกระจกทั่วไปโดยมีขั้นตอนการผลิตเพิ่มเติม เนื่องจากต้องใช้กระบวนการควบคุมความแข็งแรงและความหนาแน่นของแผ่นกระจกเพื่อให้ได้คุณสมบัติของกระจกนิรภัย โดยมีขั้นตอนการผลิตดังนี้
  1. การเตรียมวัสดุ: วัสดุที่ใช้ในการผลิตกระจกนิรภัยจะต้องเป็นวัสดุที่มีคุณภาพสูงและไม่มีตำหนิ เช่น แร่ธาตุซิลิกา (Silica) และโซเดียมไฟเบอร์ (Sodium Carbonate) ซึ่งจะถูกผสมกันและย่อยลงในเตาเผาในอุณหภูมิสูง
  2. การเตรียมเครื่องจักร: เครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิตกระจกนิรภัยจะต้องถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการผลิตแผ่นกระจกที่มีความหนาแน่นและความแข็งแรงที่เหมาะสม
  3. การผสมสารเคมี: สารเคมีจะถูกผสมกันในอุณหภูมิสูงโดยใช้เตาเผาพิเศษ โดยแร่ธาตุซิลิกาและโซเดียมไฟเบอร์จะถูกผสมเข้าด้วยกันและละลายไปในแรงดันของอากาศภายในเตาเผา
4 การเปิดเตาเผา: หลังจากผสมสารเคมีแล้ว แผ่นกระจกจะถูกนำเข้าเตาเผาโดยมีอุณหภูมิสูงเพื่อให้สารเคมีละลายการเป็นแผ่นกระจก: หลังจากสารเคมีละลายในอากาศแล้ว จะเกิดกระบวนการที่เรียกว่าการเป็นแผ่นกระจก โดยจะมีการควบคุมอุณหภูมิและระบบลมเพื่อให้สามารถเป็นแผ่นกระจกได้อย่างถูกต้อง การควบคุมความหนาแน่นและความแข็งแรงของแผ่นกระจกเป็นส่วนสำคัญของการผลิตกระจกนิรภัย
  1. การตัดแผ่นกระจก: หลังจากเป็นแผ่นกระจกแล้ว จะถูกนำมาตัดเป็นขนาดตามที่ต้องการโดยใช้เครื่องมือตัดเฉพาะที่มีความแม่นยำและเหมาะสม
  2. การเจาะหรือเจียระไน: หากต้องการแต่งงานกระจกนิรภัย เช่น การเจาะรูหรือเจียระไนสัญลักษณ์ จะต้องใช้เครื่องมือพิเศษที่มีความแม่นยำเพื่อไม่ทำให้แผ่นกระจกแตกหรือบิดงอ
  3. การทำกรอบ: สุดท้าย แผ่นกระจกนิรภัยจะถูกติดตั้งในกรอบที่ผลิตมาเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถติดตั้งได้อย่างมั่นคงและเป็นระบบ โดยกรอบนี้จะมีลักษณะเป็นโครงสร้างที่แข็งแรงและมีความทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน
จากข้อความดังกล่าว เราสามารถเห็นได้ว่ากระบวนการผลิตกระจกนิรภัยเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนมากเนื่องจากต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและความคงทนต่อแรงสั่นสะเทือน โดยมีการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัยและทันสถานการณ์ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้
ในปัจจุบัน กระจกนิรภัยถือเป็นวัสดุกันกระแทกที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในในการสร้างห้องอาบน้ำและห้องน้ำ ซึ่งการผลิตกระจกนิรภัยที่มีคุณภาพดีจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสวยงามให้กับบริเวณดังกล่าว
ดังนั้น เราสามารถสรุปได้ว่ากระจกนิรภัยเป็นวัสดุที่มีความสำคัญและคุณค่าสูงในชีวิตประจำวัน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกสถานการณ์ การผลิตกระจกนิรภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างสรรค์วัสดุที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละบริบทให้กับผู้ใช้งานได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นฃ
 
 
ข้อดีของกระจกเทมเปอร์ กระจกเทมเปอร์ (tempered glass) เป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างจากกระจกปกติ มีข้อดีมากมายในการใช้งาน ดังนี้
  1. ความปลอดภัย: กระจกเทมเปอร์มีความแข็งแรงมากกว่ากระจกปกติ และเมื่อถูกแตะหรือกระแทกก็จะแตกเป็นเม็ดเล็กๆ แทนที่จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ทำให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุอื่นๆ
  2. ความคงทนต่อแรง: กระจกเทมเปอร์มีความคงทนต่อแรงสั่นสะเทือนและแรงกระแทกได้มากกว่ากระจกปกติ จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่มีการเคลื่อนไหวและการกระแทกต่อเนื่อง เช่น ประตูกระจก เคาน์เตอร์หรือหน้าต่าง
  3. การทำความสะอาดง่าย: กระจกเทมเปอร์ไม่จับฝุ่นและมลพิษเหมือนกระจกปกติ และสามารถทำความสะอาดได้ง่าย โดยใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือผ้าอื่นๆที่ไม่ติดขีด
  4. การใช้งานที่หลากหลาย: กระจกเทมเปอร์มีความหลากหลายในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในห้องน้ำ ห้องครัว หรือการใช้งานในอุตสาหกรรม สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการของผู้ใช้งาน
 
  1. ความสวยงาม: กระจกเทมเปอร์มีลักษณะการสะท้อนแสงที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ความคุ้มค่า: กระจกเทมเปอร์มีราคาที่คุ้มค่ากว่ากระจกปกติ แม้ว่าราคาจะสูงกว่า แต่มีคุณภาพและความทนทานที่ดีกว่า จึงไม่ต้องเปลี่ยนหรือซ่อมแซมบ่อยครั้ง
  2. ความเป็นธรรมชาติ: กระจกเทมเปอร์ไม่มีสารพิษหรือเคมีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถนำกลับมาใช้งานได้ซ้ำๆได้โดยไม่เสียคุณสมบัติ
  3. ความละเอียดในการผลิต: กระจกเทมเปอร์ผลิตด้วยกระบวนการที่ละเอียดและเชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและความนุ่มหรือแข็งแรงตามที่ต้องการ
  4. การสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดี: กระจกเทมเปอร์สามารถสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดีให้กับผู้ใช้งาน โดยการมองเห็นภาพที่ชัดเจนและไม่มีสิ่งกีดขวาง และยังช่วยให้ห้องดูกว้างขวางและสวยงามมากยิ่งขึ้นด้วย
  5. ความทนทานต่อเวลา: กระจกเทมเปอร์สามารถใช้งานได้นานๆโดยไม่ต้องเปลี่ยนหรือซ่อมแซมบ่อยครั้ง สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานโดยไม่สูญเสียคุณสมบัติหรือความสวยงามของผลิตภัณฑ์
 
:ข้อเสียของกระจกเทมเปอร์
  1. ราคาแพง: กระจกนิรภัยมีราคาแพงกว่ากระจกปกติ ดังนั้นการใช้งบประมาณในการสร้างสรรค์โครงการที่ใช้กระจกนิรภัยจำเป็นต้องพิจารณาเรื่องต้นทุนอย่างรอบคอบ
  2. การติดตั้งที่ยากลำบาก: การติดตั้งกระจกนิรภัยต้องใช้เทคนิคและช่างคุณภาพสูง เนื่องจากความหนาของกระจกนิรภัยอาจทำให้เครื่องมือประสานงานทั้งหมดต้องมีความแข็งแรงและแม่นยำเพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้อย่างถูกต้อง
  3. การเปลี่ยนสีและการระเบิด: ถึงแม้ว่ากระจกนิรภัยจะทนต่อการกระแทกและการเจาะได้ดีกว่ากระจกปกติ แต่หากถูกกระแทกหรือระเบิดอย่างแรง อาจทำให้กระจกเกิดการแตกหัก หรือเปลี่ยนสีได้
  4. น้ำหนัก: กระจกนิรภัยมีน้ำหนักที่หนักกว่ากระจกปกติ เมื่อต้องใช้งานในโครงการใหญ่ จะต้องมีการพิจารณาความแข็งแรงของโครงสร้างก่อน โดยเฉพาะเมื่อต้องมีการติดตั้งกระจกในพื้นที่ที่มีการสั่นสะเทือนหรือการขยับอย่างรุนแรงได้
  1. ความหนาแน่นที่เพิ่มขึ้น: การผลิตกระจกนิรภัยทำให้กระจกมีความหนาแน่นสูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้กระจกมีน้ำหนักมากกว่ากระจกปกติ และทำให้ยากต่อการติดตั้ง
  2. การสังเคราะห์ต่ำ: กระจกนิรภัยไม่สามารถสังเคราะห์ได้เหมือนกับกระจกปกติ ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคในการนำมาใช้ในบางกรณี
  3. ความบาง: กระจกนิรภัยมีความบางมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดการบิดเบือนหรืองอได้ง่าย และมีโอกาสเกิดรอยขีดข่วนและแตกได้ง่าย